Last updated: 24 ก.ค. 2568 | 21 จำนวนผู้เข้าชม |
ตลาดระบบ Electronic Article Surveillance (EAS) หรือเสากันขโมยในประเทศไทยในปี 2567 (2024) แสดงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแนวโน้มตลาด Retail Loss Prevention ทั่วโลกและในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง.1 การขยายตัวของธุรกิจค้าปลีก การเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมการลักขโมย และการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค E-commerce และ Omnichannel เป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่ผลักดันให้ความต้องการระบบ EAS เพิ่มขึ้น.1
ผู้เล่นหลักในตลาดประกอบด้วยผู้จำหน่ายในประเทศที่มีความเชี่ยวชาญสูง เช่น Fuya Co.,ltd. 2, บริษัท ซิเคียวริตี้ ซัพพลาย เซอร์วิส จำกัด (เสากันขโมย.com) 3, และ บริษัท ไลฟ์ โพรเทค จำกัด.6 นอกจากนี้ ยังมีผู้จัดจำหน่ายแบรนด์ระดับโลกอย่าง Takachiho Fire, Security & Services (Thailand) Ltd. ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่าย Sensormatic 7 และ Checkpoint Systems ซึ่งมีสำนักงานในประเทศไทย.10
เทคโนโลยีที่โดดเด่นในตลาดคือระบบ RF (Radio Frequency) และ AM (Acousto-Magnetic) ซึ่งเป็นที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย ขณะที่ระบบ EM (Electro-Magnetic) มีการใช้งานเฉพาะทางมากขึ้น และเทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผสานรวมการป้องกันการสูญหายเข้ากับการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง.3
แม้ไม่มีข้อมูลสัดส่วนตลาดโดยตรง การวิเคราะห์จากฐานลูกค้าและระดับความโดดเด่นของผู้จำหน่ายชี้ให้เห็นว่า บริษัท ไลฟ์ โพรเทค จำกัด มีบทบาทสำคัญในกลุ่มห้างสรรพสินค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ 6 ในขณะที่ Fuya Co.,ltd. และ บริษัท ซิเคียวริตี้ ซัพพลาย เซอร์วิส จำกัด มีฐานลูกค้าที่หลากหลายครอบคลุมร้านค้าปลีกทั่วไปและร้านสะดวกซื้อ.2 Takachiho (Sensormatic) และ Checkpoint Systems มักเน้นตลาดองค์กรขนาดใหญ่และผู้ที่ต้องการโซลูชันขั้นสูง.7 แนวโน้มสำคัญของตลาดกำลังมุ่งสู่โซลูชันที่ชาญฉลาดและบูรณาการมากขึ้น โดยเฉพาะการนำ AI และ Machine Learning มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อป้องกันการสูญหายเชิงรุก.1 บริการหลังการขายและการบำรุงรักษาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการ.3
บทนำ: ความสำคัญของระบบ EAS ในธุรกิจค้าปลีกไทย
ระบบ EAS (Electronic Article Surveillance) หรือที่รู้จักกันในชื่อเสากันขโมย เป็นเทคโนโลยีหลักที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการโจรกรรมสินค้าในร้านค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า และธุรกิจอื่นๆ โดยมีหลักการทำงานคือการตรวจจับป้ายหรือแท็กที่ติดอยู่กับสินค้าซึ่งยังไม่ได้ผ่านกระบวนการชำระเงินและปลดสัญญาณออก.14 เมื่อสินค้าที่มีแท็กที่ยังทำงานอยู่ผ่านเสาตรวจจับที่ทางออก ระบบจะส่งสัญญาณเตือนเพื่อแจ้งเตือนพนักงาน. องค์ประกอบสำคัญของระบบ EAS ประกอบด้วยเสากันขโมย (Antenna) ซึ่งเป็นตัวส่งและรับสัญญาณ ป้ายหรืออุปกรณ์สำหรับติดสินค้า (TAG/Label) ที่มีวงจรไฟฟ้าหรือวัสดุแม่เหล็ก และเครื่องล้างสัญญาณ Tag หรืออุปกรณ์ถอด Tag (Deactivator/Detacher) ที่ใช้ในการปิดการทำงานของแท็กเมื่อสินค้าถูกซื้ออย่างถูกต้อง.3 บทบาทหลักของระบบนี้คือการลดปัญหาสินค้าสูญหาย (Shrinkage) ซึ่งเป็นความท้าทายสำคัญที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลกำไรและประสิทธิภาพการดำเนินงานของธุรกิจค้าปลีกทั่วโลก.1
ในบริบทของตลาดค้าปลีกไทย อุตสาหกรรมนี้มีการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่ายอดขายรวมในปี 2567 จะสูงถึง 113 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเติบโต 3% จากปี 2566.4 การขยายตัวนี้ขับเคลื่อนด้วยความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นและแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งคาดการณ์ GDP เติบโต 3% ในปี 2567.4 การลงทุนในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ 16 ยังบ่งชี้ถึงการขยายตัวของพื้นที่ค้าปลีกใหม่ๆ ซึ่งจะเพิ่มความต้องการระบบ EAS.
การลงทุนในระบบ EAS ไม่ได้เป็นเพียงค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการเพิ่มผลกำไรของธุรกิจ. การลดการสูญหายของสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถเพิ่มรายได้สุทธิได้โดยตรง. นอกจากนี้ การมีระบบป้องกันที่แข็งแกร่งยังช่วยให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่การบริการลูกค้าและการสร้างยอดขายได้มากขึ้น แทนที่จะต้องกังวลกับการเฝ้าระวังการโจรกรรมตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและส่งเสริมยอดขายทางอ้อม. สิ่งนี้ยกระดับบทบาทของ EAS จากเครื่องมือรักษาความปลอดภัยเชิงรับไปสู่เครื่องมือที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจเชิงรุก.
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคและการเร่งตัวของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในภาคค้าปลีก (Retail Digitization) รวมถึงการเติบโตของ E-commerce และ Omnichannel Retailing 1 ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ๆ ในการป้องกันการสูญหาย. การเติบโตของ E-commerce ในประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ที่ 11.2% จากปี 2567 ถึง 2571.4 แม้ว่าการขายออนไลน์จะเพิ่มขึ้น แต่ความต้องการระบบ EAS ในร้านค้าจริงยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่ง. ร้านค้าทางกายภาพกำลังพัฒนาไปสู่ศูนย์กลางการทำงานที่หลากหลาย เช่น โชว์รูม จุดรับสินค้า หรือศูนย์คืนสินค้า ซึ่งหมายความว่ายังคงมีสินค้าคงคลังที่มีมูลค่าสูงอยู่ และยังคงมีช่องทางใหม่ๆ สำหรับการสูญหายตลอดห่วงโซ่อุปทาน. ระบบ EAS ที่ทันสมัยสามารถช่วยเชื่อมโยงความปลอดภัยระหว่างช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ได้.1 สำหรับผู้ค้าปลีก การนำระบบ EAS มาใช้จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงและสร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจในสภาพแวดล้อมค้าปลีกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว.
ภาพรวมเทคโนโลยีเสา EAS
ระบบ EAS แบ่งออกเป็นหลายเทคโนโลยีหลัก ซึ่งแต่ละระบบมีหลักการทำงาน ข้อดี และข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเลือกใช้ระบบที่เหมาะสมกับประเภทธุรกิจและสินค้า
ระบบ RF (Radio Frequency)
ระบบ RF ใช้คลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งโดยทั่วไปคือ 8.2 MHz ในการตรวจจับแท็กหรือป้ายที่ติดอยู่กับสินค้า.3 เมื่อแท็กที่ยังไม่ถูกปลดสัญญาณผ่านเสาตรวจจับ ระบบจะส่งสัญญาณเตือน. ระบบนี้เป็นที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายในร้านค้าทั่วไป เช่น ร้านเสื้อผ้า ร้านขายของชำ และร้านของฝาก เนื่องจากมีต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำสำหรับแท็กและอุปกรณ์.3 นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นในการติดตั้งและใช้งานง่าย. อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของระบบ RF คืออาจเกิดการเตือนผิดพลาดได้หากมีโลหะหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ อยู่ใกล้เสา และระยะการตรวจจับอาจสั้นกว่าระบบ AM ในบางกรณี. ผู้จำหน่ายระบบ RF ในประเทศไทย ได้แก่ Fuya Co.,ltd. 2, บริษัท ซิเคียวริตี้ ซัพพลาย เซอร์วิส จำกัด 3, บริษัท ไลฟ์ โพรเทค จำกัด 6, Takachiho Fire, Security & Services (Thailand) Ltd. (ตัวแทนจำหน่าย Sensormatic) 8, Checkpoint Systems 10, และ Winmax.17
ระบบ AM (Acousto-Magnetic)
ระบบ AM ใช้คลื่นเสียงแม่เหล็กความถี่ต่ำ โดยทั่วไปคือ 58 KHz ในการตรวจจับแท็กที่ทำจากวัสดุแม่เหล็กพิเศษ.3 เมื่อแท็กผ่านสนามแม่เหล็กของเสา จะเกิดการสั่นสะเทือนและส่งสัญญาณกลับมายังเสา. ข้อดีที่โดดเด่นของระบบ AM คือมีอัตราการตรวจจับที่สูงและลดการเตือนผิดพลาดได้ดีกว่าระบบ RF ทำให้เหมาะสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูงหรือสินค้าที่ต้องการการป้องกันที่แน่นหนาเป็นพิเศษ.3 นอกจากนี้ยังสามารถตรวจจับได้ในระยะที่กว้างกว่า RF ในบางการติดตั้ง. อย่างไรก็ตาม แท็กของระบบ AM มีราคาแพงกว่า RF เล็กน้อย. ผู้จำหน่ายระบบ AM ในประเทศไทย ได้แก่ Fuya Co.,ltd. 2, บริษัท ซิเคียวริตี้ ซัพพลาย เซอร์วิส จำกัด 3, บริษัท ไลฟ์ โพรเทค จำกัด 6, และ Takachiho Fire, Security & Services (Thailand) Ltd. (ตัวแทนจำหน่าย Sensormatic).8
ระบบ EM (Electro-Magnetic)
ระบบ EM ใช้หลักการสนามแม่เหล็กไฟฟ้าในการตรวจจับแถบแม่เหล็กขนาดเล็กที่ฝังอยู่ในสินค้าหรือติดบนบรรจุภัณฑ์.3 ข้อดีของระบบนี้คือแท็กมีขนาดเล็กมาก สามารถซ่อนได้ง่าย และสามารถติดบนสินค้าได้หลากหลายประเภท รวมถึงสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือในห้องสมุด.12 แท็ก EM ยังสามารถเปิดใช้งานและปิดใช้งานซ้ำได้หลายครั้ง. ข้อจำกัดหลักคือระยะการตรวจจับค่อนข้างสั้น ทำให้มักใช้สำหรับสินค้าประเภทหนังสือ สื่อบันเทิง หรือสินค้าขนาดเล็ก. ผู้จำหน่ายระบบ EM ในประเทศไทย ได้แก่ บริษัท ซิเคียวริตี้ ซัพพลาย เซอร์วิส จำกัด 3 และ บริษัท ไลฟ์ โพรเทค จำกัด.6
เทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification)
RFID ถือเป็นวิวัฒนาการของเทคโนโลยี RF ที่ก้าวหน้าไปอีกขั้น ไม่เพียงแค่ตรวจจับการโจรกรรมเท่านั้น แต่ยังสามารถระบุตัวตนและติดตามสินค้าแต่ละชิ้นได้อย่างแม่นยำ.1 สิ่งนี้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในคุณค่าของระบบ EAS จากการเป็นเพียงเครื่องมือป้องกันการโจรกรรมไปสู่เครื่องมืออัจฉริยะที่ให้ข้อมูลเชิงลึก. ระบบ RFID ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยเพิ่มความถูกต้องของข้อมูลสินค้า ลดการสูญหายจากข้อผิดพลาดในการนับสต็อก และปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานในร้านค้า.1 สามารถใช้สำหรับการนับสต็อกอัตโนมัติและการป้องกันการสูญหายพร้อมกัน. อย่างไรก็ตาม ระบบ RFID มีต้นทุนการลงทุนเริ่มต้นที่สูงกว่าระบบ EAS แบบดั้งเดิม.1 ผู้จำหน่ายระบบ RFID ในประเทศไทย ได้แก่ Takachiho Fire, Security & Services (Thailand) Ltd. (ตัวแทนจำหน่าย Sensormatic) 8 และ Checkpoint Systems.10
ผู้ค้าปลีกต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ซับซ้อนในการเลือกระบบ EAS ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรักษาสมดุลระหว่างปัจจัยหลายประการนอกเหนือจากการป้องกันการโจรกรรมเพียงอย่างเดียว. มีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างต้นทุนการลงทุนเริ่มต้น ประสิทธิภาพและความแม่นยำในการตรวจจับ และความกลมกลืนของระบบกับสุนทรียภาพของร้านค้า. ผู้ค้าปลีกที่คำนึงถึงงบประมาณอาจให้ความสำคัญกับระบบ RF ที่มีต้นทุนต่ำกว่า โดยยอมรับข้อจำกัดที่อาจเกิดขึ้น. ในทางกลับกัน แบรนด์หรูหรือผู้ค้าปลีกสินค้ามูลค่าสูงอาจให้ความสำคัญกับการตรวจจับที่เหนือกว่าของระบบ AM หรือข้อมูลอัจฉริยะจาก RFID และยินดีที่จะลงทุนมากขึ้นในระบบที่มีความสวยงามหรือแม้กระทั่งระบบแบบซ่อน 8 เพื่อรักษากลิ่นอายของร้านค้าที่ต้องการ. ความแตกต่างนี้สร้างกลุ่มตลาดที่ชัดเจนซึ่งขับเคลื่อนโดยลำดับความสำคัญที่แตกต่างกันเหล่านี้.
10 ส.ค. 2566
9 พ.ค. 2567
10 ส.ค. 2566